ขอให้สำลักความสุข ...ขอให้ทุกข์กระเด็น ...ขอให้เห็นรอยยิ้ม ...ขอให้อิ่มความรัก...ขอให้หนักเงินทอง ...ขอให้มองฟ้าสวย ...ขอให้รวยความฝัน ...ขอให้มั่นความดี ...ขอให้มีแรงใจ ...ขอให้สดใส สบายกายสบายใจ

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

ความรู้เรื่องแบตเตอรี่รถยนต์

ความรู้เรื่องแบตเตอรี่ สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
1 การประจุไฟที่น้อยเกินควร Under Charging
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- เกิดคราบขาวที่แผ่นธาตุของแบตเตอรี่ส่งผลให้ประจุไฟได้ยาก
- ทำให้แผ่นธาตุจะเสื่อมสภาพ
2 การประจุไฟที่มากเกินควร Over Charging
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- น้ำกลั่นแปรสภาพเป็นแก๊สมากทำให้ระดับน้ำกลั่นลดลง
- อุณหภูมิสูงขึ้นมากทำให้แผ่นธาตุเสื่อม
- ทำให้ผงตะกั่วเกิดการสึกกร่อนจากแผ่นธาตุ
- แผ่นธาตุงอโค้ง
- ลดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
3 การลัดวงจรในช่องแบตเตอรี่ Short Circuit
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- เกิดตะกอนที่อยู่ส่วนล่างของหม้อแบตเตอรี่มากเกินไป
- เกิดจากการแตกหักหรือการเสื่อมสภาพของแผ่นกั้นระหว่างแผ่นธาตุบวก และแผ่นธาตุลบ
4 ปัญหาระบบไฟในรถ
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- การติดเครื่องเสียง สัญญาณกันขโมย อุปกรณ์เสริมในรถเพิ่มเติม (ไฟไม่พอ)
- การเปลี่ยนแปลงขนาดของแบตเตอรี่
- การลัดวงจรของสวิทซ์ไฟต่างๆในรถ
- ประสิทธิภาพการทำงานของไดชาร์จไม่เต็มที่
5 การมีสารอันตรายปะปนในหม้อแบตเตอรี่ Impurity
อาการ และลักษณะที่เกิดขึ้น:
- น้ำกรดไม่ได้คุณภาพ
- น้ำกลั่นที่เติมลงไปไม่บริสุทธิ์
- เติมน้ำกลั่นสี (สารหล่อเย็น) ลงไป
6 การเกิดซัลเฟต (Sulfation)
แผ่นธาตุที่มีผลึกซัลเฟตสีขาวเกาะติดอยู่ที่บริเวณแผ่นธาตุ เกิดจาก…..
- ปล่อยทิ้งแบตเตอรี่ไว้นานๆ โดยไม่นำไปใช้
- การประจุไฟที่น้อยเกินไป (Under Charging)
- แผ่นธาตุโผล่พ้นระดับน้ำกรด
การตรวจเช็คกำลังไฟของแบตเตอรี่รถยนต์
                การวัดค่าต่างๆ ในตัวแบตเตอรี่มีหลายค่าที่ต้องวัดเพื่อทราบถึงประสิทธิภาพของการทำงานของแบตเตอรี่ นอกเหนือจากการวัดค่าแรงดันไฟVolatage no-load แล้วค่าอื่นๆ ก็มีความสำคัญเช่นกันแต่ถ้าจะมาจำเพาะเจาะจงถึงเรื่องกำลังไฟสำหรับการติดหรือการสตาร์ทเครื่องยนต์ สิ่งที่สามารถบอกถึงประสิทธิภาพในเรื่องนี้คือการวัดค่า CCA (Cool Cranking Ampere)ซึ่งบางท่านเข้าใจว่าวัดโวลต์แล้ว จะทราบ กระแสไฟ นั้นถูกต้องแต่ มัน ไมใช่
ซึ่งถ้าไปเช็คตามร้านทั่วไปที่ไม่มีเครื่องมือพิเศษก็อาจจะบอกว่าแบตเสื่อมหรือไม่ก็จะจับแบตไปทำการ recharge ถ้าหลังจากชาร์จแล้ว ยังเหมือนเดิมก็แสดงว่า แบตเสื่อมสภาพ
แต่ในปัจจุบันมีเครื่องมือพิเศษเป็นอุปกรณ์ทีใช้ในการวัดประสิทธิภาพของแผ่นธาตุในแบตเตอรี่ ว่ายังมีสภาพพร้อมที่จะทำปฎิกิริยากับน้ำกรดเพื่อสร้างกระแสไฟให้เกิดค่ากำลังไฟครับแบบฝรั่งว่าไว้คือ
What is Cold Cranking Ampere (CCA) Rating?
The Cold Cranking Ampere (CCA) rating is the industry rating that measures the cranking power a battery has available to start an engine at 0º F. The Battery Council International defines it as the number of amperes a lead acid battery at 0º F can deliver for 30 seconds and maintain at least 1.2 volts per cell.
สรุปแบบให้คนไทยรู้เรื่องคือ
นิยาม CCA (cold cranking amp) คือ ค่ากระแสไฟสูงสุดที่แบตลูกนั้นๆสามารถจ่ายกระแสออกมาได้ในช่วงที่มีการสตาร์ทรถ ช่วงสั้นๆ 5-10 วินาที
ซึ่งค่า ccaของแบต แต่ละรุ่นนั้นมีค่ามาตรฐานที่แตกต่างกัน แต่ทุกยี่ห้อจะต้องมีค่าไม่ต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ตามระบบสากล
เช่นแบตรุ่น ปิกอัพ ขนาด 70 แอมป์ หรือท้องตลาดจะเรียกว่า รุ่น 70 z นั้นตามระบบสากลเรียกรุ่นนี้ว่า รุ่น 75D 31 ซึ่งมีค่ามาตรฐาน ccaต้องไม่ต่ำกว่า 440 แอมป์ ซึ่งถ้าใช้อุปกรณ์วัดค่า ccaแล้วพบว่าต่ำกว่ามาตรฐาน อย่างน้อย 20% เครื่องจะเตือนและแจ้งว่าควรที่จะเปลี่ยนแบตใหม่ได้แล้ว 

http://batteryclinic-th.blogspot.com/2011/09/battery-clinic.html