การประจุไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ในครั้งแรก ควรชาร์จนานเท่าใด
การประจุไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ในครั้งแรก ควรชาร์จประมาณ 8-16 ชั่วโมง
การประจุไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ในครั้งแรก ควรชาร์จประมาณ 8-16 ชั่วโมง
กระแสในการประจุไฟฟ้าอยู่ที่ 10% ของความจุแบตเตอรี่แล้ว แบตเตอรี่ที่หมดประจุอย่างสมบูรณ์สามารถจะประจุได้ภายใน 10 ชั่วโมง แต่ความเป็นจริงจะใช้เวลามากกว่า 10 ชั่วโมง การประจุทีละน้อยด้วยอัตราขนาดนี้สามารถประจุทิ้งไว้ค้างคืนได้
ประโยชน์อีกข้อหนึ่งของการประจุไฟฟ้า ด้วยอัตราขนาดนี้คือ
ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่จะถูกประจุเต็มแล้วก็ตาม ก็ไม่จำเป็นต้องนำแบตเตอรี่ออก
เนื่องจากถ้าเราประจุต่อไปก็จะไม่ทำความเสียหายให้แก่แบตเตอรี่
เกร็ดความรู้
ไฟเตือนแบตเตอรี่รถยนต์บนแผงหน้าปัดรถยนต์
สามารถบอกอะไรได้บ้าง?
หลักการทำงานของการประจุไฟฟ้ารถยนต์ทุกคัน จะสังเกตจากไฟสัญญาณแสดงบนแผงหน้าปัด แสดงเป็นรูปแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ได้เป็นการเตือนว่าแบตเตอรี่รถยนต์หมดแต่เป็นการแสดงถึงความผิดปกติของไดชาร์จ หากทุกอย่างปกติ เมื่อบิดกุญแจในจังหวะแรก ไฟเตือนต้องติดและเมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ทและทำงานแล้ว ไฟเตือนต้องดับลงตลอดการขับ ถ้าเครื่องยนต์ทำงานอยู่แล้วไฟเตือนสว่างขึ้น แสดงว่าระบบประจุไฟฟ้าบกพร่อง โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ ไดชาร์จเสีย ( สามารถขับต่อเพื่อหาร้านซ่อม ) หรือสายพรานไดชาร์จขาด ( ถ้ามีปั๊มลมช่วยระบบเบรกอาจทำให้ เบรกรถไม่อยู่ ต้องหยุดรถเพื่อหาสายพานมาใส่ )
หลักการทำงานของการประจุไฟฟ้ารถยนต์ทุกคัน จะสังเกตจากไฟสัญญาณแสดงบนแผงหน้าปัด แสดงเป็นรูปแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ได้เป็นการเตือนว่าแบตเตอรี่รถยนต์หมดแต่เป็นการแสดงถึงความผิดปกติของไดชาร์จ หากทุกอย่างปกติ เมื่อบิดกุญแจในจังหวะแรก ไฟเตือนต้องติดและเมื่อเครื่องยนต์ถูกสตาร์ทและทำงานแล้ว ไฟเตือนต้องดับลงตลอดการขับ ถ้าเครื่องยนต์ทำงานอยู่แล้วไฟเตือนสว่างขึ้น แสดงว่าระบบประจุไฟฟ้าบกพร่อง โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ ไดชาร์จเสีย ( สามารถขับต่อเพื่อหาร้านซ่อม ) หรือสายพรานไดชาร์จขาด ( ถ้ามีปั๊มลมช่วยระบบเบรกอาจทำให้ เบรกรถไม่อยู่ ต้องหยุดรถเพื่อหาสายพานมาใส่ )
ถ้าไดชาร์จปกติ แบตเตอรี่รถยนต์จะไม่เสื่อมเร็วในเวลาอันควร
ถ้าไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติมจนกินกระแสไฟฟ้ามากเกินไป
แบตเตอรี่รถยนต์จะไม่มีการหมด นอกจากเครื่องยนต์รอบเดินเบา
ไดชาร์จผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าการใช้มาก
หรือไม่ใช้รถเป็นเวลานานอาจหมดได้
ซึ่งไม่ค่อยพบปัญหาดังกล่าวในสภาพการใช้งานปกติ เพราะในการใช้รถยนต์
เมื่อมีการใช้ไฟฟ้าจากสารพัดอุปกรณ์ เช่น เครื่องยนต์ เครื่องเสียง แอร์
ไฟฟ้าส่องสว่าง ฯลฯ ก็จะมีไดชาร์จคอยส่งไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้
เติมกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ ตลอดเวลา หากแบตเตอรี่รถยนต์หมดเพราะไดชาร์จผิดปกติ
คือผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอ แต่แบตเตอรี่รถยนต์ยังไม่เสื่อมสภาพ ก็จะมีการดึงไฟฟ้าออกจากแบตเตอรี่รถยนต์ไปใช้เรื่อยๆ
ก็แค่ซ่อมระบบไดชาร์จให้เป็นปกติ แล้วใช้เครื่องประจุไฟให้เต็ม
หรือทำให้เครื่องยนต์ติด แล้วให้ไดชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์
ก็สามารถทำงานได้ตามปกติ หลังจากจอดรถไว้ ถ้าแบตเตอรี่รถยนต์หมด
หรือกระแสไฟอ่อนลงมาก
จนไดสตาร์ทหมุนเครื่องยนต์ไม่ไหวขณะที่ระบบไดชาร์จและเครื่องยนต์ปกติ แสดงว่าแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพหรือเกิดจากปัญหาอื่นๆ
อาทิ
เปิดไฟแสงสว่างทิ้งไว้หรืออาจเกิดจากระบบไฟรั่ว
ก็ให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ตรงกับสาเหตุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น